ประธานาธิบดีอับเดลฟะตะห์ เอล-ซีซีแห่งอียิปต์ ในวันพุธที่ผ่านมาได้กล่าวว่าชาวอียิปต์หลายล้านคนพร้อมที่จะออกมาประท้วงบนถนนหากปาเลสไตน์ถูก บังคับให้เข้ามาในอียิปต์ โดยเตือนว่าการกระทําเช่นนั้นอาจทําให้ซีไนเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มก่อ “การก่อการร้าย” ต่ออิสราเอล ซึ่งอาจทําให้สันติภาพระหว่างสองประเทศเสี่ยงต่อการถูกทําลาย
คําพูดดังกล่าวมาพร้อมกับการแถลงข่าวร่วมกันในไคโรของเอล-ซีซีกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์แห่งเยอรมนี ระหว่างที่เอล-ซีซีกล่าวว่ารัฐบาลของเขาเห็นการปิดล้อมกาซาของอิสราเอลเป็นแผนการเพื่อขับไล่ประชากรปาเลสไตน์ไปยังคาบสมุทรซีไนของอียิปต์
“อียิปต์ปฏิเสธการพยายามแก้ปัญหาปาเลสไตน์โดยวิธีการทางทหารหรือการขับไล่ประชากรปาเลสไตน์ออกจากดินแดนของตน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศในภูมิภาค” เอล-ซีซีกล่าวตามการแปลของรอยเตอร์
ผู้นําอียิปต์เพิ่มเติมว่าซีไนอาจกลายเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มก่อ “การก่อการร้าย” ต่ออิสราเอล ซึ่งอิสราเอลจะโทษอียิปต์ว่าเป็นต้นเหตุของการโจมตีเหล่านั้น
ประชาชนอียิปต์ “จะออกมาประท้วงเป็นล้าน ๆ คน…หากได้รับคําสั่ง” ต่อการขับไล่ประชากรกาซาออกจากดินแดนของตนเองไปยังซีไน เอล-ซีซีกล่าว
เขาเสนอแทนที่ว่าประชากรปาเลสไตน์ควรถูกย้ายไปยังเนเกฟ ทะเลทรายในใต้ของอิสราเอล จนกว่ากลุ่มติดอาวุธจะถูกปราบปราม
อิสราเอลได้สั่งให้ ประชากรทั้งหมดในเมืองและพื้นที่ใกล้เคียงอพยพไปยังเขตกาซาทางใต้ตั้งแต่ตอบโต้กลับต่อการโจมตีที่ฆ่าคนตายของกลุ่มฮามาสจากกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
มีประชากรปาเลสไตน์กว่า 1 ล้านคนหนีออกจากบ้านของตน—ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรในกาซา—และ 60% ปัจจุบันอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยทางใต้ของเขตการอพยพที่มีขนาดยาวประมาณ 8 ไมล์ของกาซา องค์การสหประชาชาติระบุ
กระทรวงสาธารณสุขของฮามาสในกาซาในวันพุธระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 3,478 คนและบาดเจ็บมากกว่า 12,000 คนในช่วง 11 วันที่ผ่านมาในกาซา
มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลมากกว่า 1,400 คน และอย่างน้อย 199 คนอื่น ๆ รวมถึงเด็ก ๆ ถูกจับตัวโดยฮามาสและถูกพาตัวเข้าไปในกาซา ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อิสราเอล