“เยอรมนี-ฝรั่งเศส” ประกาศเดินหน้าฉีดวัคซีน COVID-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา แม้ว่าบางชาติในยุโรปจะสั่งระงับการฉีดชั่วคราว เนื่องจากพบผู้เสียชีวิตจากภาวะเลือดแข็งตัว
วันนี้ (12 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส ระบุว่า สำนักงานความปลอดภัยยาฝรั่งเศส มีความเห็นเช่นเดียวกับหน่วยงานในสหภาพยุโรป ที่ชี้ว่ายังไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องสั่งระงับการฉีดวัคซีน COVID-19 ของบริษัท แอสตราเซเนกา
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า มีการเปิดการสอบสวนกรณีนี้ในฝรั่งเศสและต่างประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า อังกฤษซึ่งเป็นประเทศที่ฉีดวัคซีนตัวนี้ไปแล้วหลายล้านโดส ยังคงแนะนำให้เดินหน้าฉีดวัคซีนนี้ต่อไป และไม่ได้ระบุว่าพบความเสี่ยงสูงในวงกว้างจากการฉีดวัคซีนตัวนี้แต่อย่างใด
จากข้อมูลของฝรั่งเศส พบว่า ในจำนวนชาวยุโรปที่รับวัคซีนตัวนี้ประมาณ 5 ล้านคน มีเพียงแค่ประมาณ 30 คนเท่านั้นที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด ซึ่งเป็นอัตราส่วนเดียวกับกรณีของผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน
ขณะที่ เยอรมนี ยืนยันที่จะเดินหน้าฉีดวัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี ระบุว่า วัคซีนที่เกิดปัญหาในอิตาลีและออสเตรียเป็นคนละชุดกัน และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปยังคงใช้วัคซีนตัวนี้ฉีดให้กับประชาชนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สหภาพยุโรปยันไม่พบหลักฐาน “แอสตราเซเนกา” ทำให้เกิดลิ่มเลือด
“หมอยง” ไขปมการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำ หลังฉีดวัคซีน
สธ.แจงเหตุผลชะลอฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ขอรอผลสืบค้น