“วราวุธ” ท้าบางกลุ่มอ้างเจ้าหน้าที่แก่งกระจานทำรุนแรงชาวบางกลอย ให้ส่งหลักฐานมาจะสั่งลงโทษทางวินัย ลั่นมีคลิปเจรจาละมุนละม่อมชาวบ้านทุกขั้นตอน พร้อมให้ยูเอ็นลงพื้นที่ วอนอย่าโยงปมกะเหรี่ยงบางกลอยเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ต้องเคารพกฎหมาย
กรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำชาวบ้านบางกลอยจากใจแผ่นดิน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานลงมา พร้อมแจ้งข้อหาบุกรุกป่า 22 คนตามหมายศาลจังหวัดเพชรบุรี จนมีการสั่งปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมแจ้งเงื่อนไขห้ามกลับพื้นที่ใจแผ่นดิน
วันนี้ (9 มี.ค.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีกลุ่มชาวกะเหรี่ยงบางกลอยว่า อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นแหล่งต้นน้ำ ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนต้องได้รับการแก้ไข การมีที่่ดินกินก็ต้องทำควบคู่กับการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ โดยต้องดูแลพี่น้องในทุกภูมิภาค และคงไม่ได้ดูแลแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อ่านข่าวเพิ่ม ศาลปล่อยตัว 22 ชาวบางกลอย ให้ ผญบ.ดูแลแทนหลักประกัน
นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนกรณีบางสื่อเสนอสนอข่าวบอกว่ามีการใช้กำลังกระชากแขน ชาวบ้านขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มีการใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามคำสั่งศาล และหมายศาล โดยไม่ได้ใช้ความรุนแรงตามที่ถูกกล่าวหาแต่ใช้ความละมุนละม่อม ที่สำคัญได้ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ติดตั้งกล้องติดตัวทุกคนเพื่อดูความเคลื่อนไหวทุกขั้นตอนของการทำงาน เพื่อให้ชาวบ้านลงมาจากพื้นที่ใจแผ่นดินมายังบริเวณบ้านบางกลอยกลาง
หากมีเจ้าหน้าที่คนใดใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านบางกลอย ขอให้ส่งข้อมูลแจ้งมายังทส. โดยจะมีการดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว หากมีพยานหลักฐานชัดเจน
รับยูเอ็น-ต่างชาติลงตรวจสอบข้อเท็จริง
ส่วนกรณีมีพรรคการเมืองบางพรรคต้องการให้เจ้าหน้าที่ UN เข้าไปดูพื้นที่บางกลอย นายวราวุธ กล่าวว่า ทาง ทส.ยินดีพร้อมให้ความร่วมมือ เพราะที่ผ่านมาปีก่อนประเทศไทยเตรียมเสนอแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ได้เชิญเจ้าหน้าที่ทูต 10 ประเทศประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ IUCN ลงพื้นที่บางกลอยแล้ว และทุกคนตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นเพราะสิ่งที่พบในพื้นที่คือ มีการทำติดตั้งโซล่าเซลล์ โรงเรียน และการฝึกอาชีพให้กับชาวบ้าน ส่วนใหญ่พื้นที่บางกลอยสามารถทำการเกษตรได้จริงแต่มีบางพื้นที่จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วนที่สุด
ถ้าพยายามจะเชิญหน่วยงานต่างประเทศ หรือยูเอ็นมาพบ หรือเข้ามาในพื้นที่บางกลอย ก็พร้อมที่จะให้มาลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ปัดปมละเมิดสิทธิมนุษยชน
รมว.ทส กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอกว่าทส.ไม่ทำตามข้อตกลง ยังยืนยันการปฏิบัติงานภายใต้กรอบของกฎหมายมาโดยตลอดไม่ได้ทำนอกสัญญา หรือข้อตกลงแต่อย่างใด ซึ่งในการเจรจาได้ขอให้เจ้าหน้าที่ถอยกำลัง และขอให้ยุดการบุกรุกเพิ่ม จึงต้องขอให้ทำตามกฎหมายที่ศาลตัดสินแล้วว่าไม่อนุญาตให้บุกรุกใจแผ่นดิน แต่เรื่องนี้กลับมีคนบางกลุ่มกล่าวอ้างว่าใช้ความรุนแรง และในมือถือของตัวเองมีคลิปในช่วงปฏิบัติการเจรจา และคนเข้าพื้นที่มีทั้งอัยการ หมอ ผู้ใหญ่บ้าน ถ้ามีความรุนแรงจริงทั้งหมอ อัยการคงไม่ยอมแน่ๆ
ปัญหาบางกลอยไม่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นคน แต่เป็นพี่น้องประชาชนกลุ่มหนึ่งยังไม่พึงพอใจที่รัฐบาลเยียวยา ทั้งที่ดินทำกิน สาธารณูปโภค ระบบน้ำ ระบบเกษตร ยังจะใช้วิธีการเจรจา โดยมั่นใจว่าภายในว่าปีนี้จะแก้บางกลอยได้สำเร็จ
ชี้เจรจายังไม่ล่ม-วอนบางกลุ่มอย่าสร้างภาพรุนแรง
ถ้าพี่น้องไม่เคารพในตัวบทกฎหมายแล้ว เราก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรต่อ แก่งกระจาน เป็นแหล่งต้นน้ำชั้นเยี่ยม ป่าตะวันตกเป็นป่าที่สมบูรณ์ ถ้าป่าหายไปเรื่อยๆ เพราะมีคนต้องการพื้นที่ป่า ถามว่าถ้าเขื่อนศรีนครินทร์ ไม่มีน้ำเข้าเขื่อนแล้วใครจะรับผิดชอบ
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ทส.ก็ยึดมั่นในตัวบทกฎหมาย ทั้งเการเจรจา และเจรจายังไม่จบ ยืนยันการเจรจาไม่ได้ล่ม แต่จะหาวิธีเยียวพี่นองประชาชน ไม่อยากให้หลายฝ่ายยังไปปสร้างภาพว่ามีความรุนแรง เพราะตอนนี้ก็ยังไม่มีภาพหรือมีอะไรมายืนยัน เพราะมันไม่มี ขณะที่เจ้าหน้าที่ทุกคนกลับมีหลักฐานจากคลิปที่เข้าปฏิบัติงาน
นอกจากนี้ ทส.จะเดินหน้าเจรจาต่อเนื่องในการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ระบบสาธารณูปโภค เนื่องจากปัจจุบันบ้านโป่งลึก-บางกลอยมีประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 116 ครอบครัว รวม 672 คน มีพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยรวมกว่า 700 ไร่ ด้วยการเข้าไปพัฒนาสำรวจหาแหล่งน้ำ ทั้งน้ำใต้ดินและน้ำบนดิน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เบื้องหลังภารกิจใจแผ่นดิน – อ่านหมายศาลก่อนขนกะเหรี่ยงขึ้นฮ.
ด่วน! พา “หน่อแอะ มีมิ” ลูกหลาน ลงจากบ้านใจแผ่นดิน
กรมอุทยานฯ แจ้งจับผู้บุกรุก “ป่าแก่งกระจาน” 18 แปลง