
ผลประกอบการของบริษัท Tesla (NASDAQ: TSLA) ที่สามารถเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์มาเป็นเวลา 10 ไตรมาสติดต่อกันมา ก็ต้องสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันพร้อมกับการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ของบริษัท ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของ Tesla ปรับตัวลดลง
ในไตรมาสนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ได้รายงานกําไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.66 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับผลประกอบการปีก่อนที่อยู่ที่ 1.05 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังไม่สามารถทะยานเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ 0.72 เหรียญสหรัฐฯ สาเหตุหลักมาจากการตัดราคารถยนต์คงเหลืออยู่ในสต็อกของบริษัท ซึ่งส่งผลกระทบต่ออัตรากําไรของบริษัท แม้ว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 23,350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ก็ยังต่ํากว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ 24,381 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลกระทบจากผลประกอบการที่ไม่ตรงความคาดหมายส่งผลให้ราคาหุ้นของ Tesla ปรับตัวลดลงมากกว่า 4% ในช่วงหลังเลิกการซื้อขาย
สําหรับผลประกอบการด้านการผลิต อัตรากําไรขั้นต้นของ Tesla ในไตรมาสนี้อยู่ที่เพียง 7.6% ซึ่งลดลงมากถึง 964 จุดพื้นฐาน เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ยังไม่สามารถทะยานเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ที่ 7.9% สาเหตุหลักมาจากต้นทุนสูงในการขยายกําลังการผลิตเพื่อรถรุ่นใหม่ เช่น Cybertruck และโครงการอื่นๆ รวมถึงอิทธิพลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เพื่อกระตุ้นยอดจําหน่ายรถยนต์และเพิ่มความคุ้มค่าในสหรัฐอเมริกา Tesla ได้ดําเนินการตัดราคาและโปรโมชั่นต่างๆ โดยเฉพาะรถ Model 3/Y ทุกรุ่นสามารถรับเครดิตภาษีสหพันธ์เต็ม 7,500 เหรียญสหรัฐฯ ตามพระราชบัญญัติการลดเงินเฟ้อ แม้ว่าจะมีการดําเนินการเช่นนี้ แต่สัดส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาของ Tesla กลับลดลงจาก 60% ในไตรมาสที่ 1 เหลือ 50% ในไตรมาสที่ 3 ตามข้อมูลจาก Kelley Blue Book
แม้จะประสบอุปสรรคมากมาย แต่บริหารงานของ Tesla ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มยอดจําหน่ายได้ประมาณ 50% ในอนาคตอันใกล้ โดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบรถได้ 1.8 ล้านคันในปี 2566
ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 Tesla สามารถผลิตรถได้ 430,488 คัน ซึ่งเกินความคาดหมายอย่างมาก และเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนยอดส่งมอบรถที่แท้จริงอยู่ที่ 435,059 คัน เพิ่มขึ้นอย่างน่าชื่นชม 27% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์
พิจารณายอดส่งมอบแยกตามรุ่น พบว่า Model 3/Y เพิ่มขึ้นอย่างน่าชื่นชม 29% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ ขณะที่ Model S/X ประสบปัญหามากขึ้น เมื่อยอดส่งมอบลดลง 31% จากปีก่อน และไม่สามารถทะยานเกินความคาดหมาย
สําหรับรายได้จากการขายรถยนต์ อยู่ที่ 19,625 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเกินความคาดหมายของนักวิเคราะห์ โดยรวมรายได้จากการขายเครดิตการปล่อย