(SeaPRwire) – นายกรัฐมนตรีระบุว่าอุตสาหกรรมกลาโหมจะต้องพึ่งพาตนเองเพื่อต้านทานการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเตือนเมื่อวันอาทิตย์ว่า อิสราเอลจะต้องปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการคว่ำบาตรและการบอยคอตที่รุนแรง
ในการกล่าวปราศรัยที่การประชุมประจำปีของหัวหน้าผู้สอบบัญชีของกระทรวงการคลังในกรุงเยรูซาเลม เนทันยาฮูกล่าวว่า แรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสงครามกาซากำลังผลักดันประเทศไปสู่การพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจ
“เราจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจที่มีลักษณะพึ่งพาตนเองมากขึ้น” เขากล่าว “ผมเชื่อมั่นในตลาดเสรี ผมทำงานเพื่อนำการปฏิวัติตลาดเสรีมาสู่อิสราเอล แต่เราอาจพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่อุตสาหกรรมกลาโหมของเราถูกปิดกั้น”
เราจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมกลาโหมภายในประเทศ เราจะต้องกลายเป็นเอเธนส์และซูเปอร์สปาร์ตา เราไม่มีทางเลือก อย่างน้อยในช่วงหลายปีข้างหน้า เราจะต้องรับมือกับการพยายามแยกตัวเหล่านี้ สิ่งที่เคยใช้ได้ผลจนถึงตอนนี้จะไม่สามารถใช้ได้ผลอีกต่อไป
นักเคลื่อนไหวผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ได้กดดันบริษัทต่างชาติให้ตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ได้เรียกร้องให้ระงับข้อตกลงการค้าเสรีของ EU กับอิสราเอล โดยอ้างถึงวิกฤตมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเกือบ 65,000 คนตั้งแต่ปี 2023 เธอกล่าวหาว่า “รัฐมนตรีหัวรุนแรง” ในรัฐบาลของเนทันยาฮูยุยงให้เกิดความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์
บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้
หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน
SeaPRwire จัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์สดให้กับบริษัทและสถาบัน โดยมียอดการเข้าถึงสื่อกว่า 6,500 แห่ง 86,000 บรรณาธิการและนักข่าว และเดสก์ท็อปอาชีพ 3.5 ล้านเครื่องทั่ว 90 ประเทศ SeaPRwire รองรับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น อาหรับ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ