การเขียนบทความความทรงจําของการเป็นนักกิจกรรมนิยมสตรีทําให้คาทลีน ฮานนาเข้าสู่ “รถไฟความสุข”

Kathleen Hanna

(SeaPRwire) –   คาทลีน ฮานนา เคยมีความจริงจังและมีความสนุกสนานอย่างลับๆ พร้อมกันมาตั้งแต่ต้นยุคทศวรรษที่ 90 เมื่อฮานนาอายุ 20 กว่าปี เป็นนักร้องนําวง Bikini Kill วงพังก์ที่กลายเป็นวงดนตรีที่เป็นตัวแทนที่เห็นได้ชัดที่สุดของขบวนการนิยมสิทธิสตรีรุ่นที่สามที่เรียกว่า “Riot grrrl” เธอร้องเพลง “Suck my left one” ด้วยน้ําเสียงโกรธต่อผู้กระทําผิด วงโซโลของเธอต่อมา Julie Ruin สร้างภาพของ “ผู้ก่อการร้าย” ที่สวมผ้าพันคอสกรันชีและมีเพลงที่มีจังหวะเหมือนเพลงซัร์ฟ และในต้นศตวรรษที่ 21 เธอกลับไปเล่นดนตรีแนวแดนซ์พังก์กับวง Le Tigre ร้องเพลงพร้อมท่าเต้นที่มีการจัดการแบบคล้ายกับตัวการ์ตูนฟรีด ฟลินสโตน

หนังสือบันทึกชีวิตของฮานนาเล่มใหม่ “Rebel Girl” ที่จะออกในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ นําเสนอเรื่องราวชีวิตของเธอด้วยเสียงสนุกสนาน วิจารณ์สังคมอย่างฉลาด และมีความลึกซึ้งทางการเมืองเหมือนเสมอ ในหนังสือเธอพยายามที่จะสร้างความสมดุลระหว่างการหัวเราะกับตัวเองและการพูดถึงเรื่องราวที่รุนแรง เพราะเธอไม่อยากทําให้เรื่องราวเหล่านั้นดูเบาๆ เหมือนเคย ในฉบับแรกของหนังสือ “เรื่องเกี่ยวกับการข่มขืนก็มีความตลกขบขัน” แต่ในฉบับสุดท้ายหลังจากเธอไปรับการบําบัดทางจิตวิทยา เธอบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับการถูกข่มขืนตั้งแต่เด็กและวัยรุ่นอย่างลึกซึ้งแต่ยังคงมีความฉลาด

เรื่องราวในช่วงแรกของชีวิตเธอนี้เป็นสิ่งที่แฟนเพลงของเธอรู้อยู่แล้วบ้างจากข้อมูลที่ได้รับมาเป็นช่วงๆ เช่น ชีวิตวัยเด็กที่ยากลําบาก ความสําเร็จในยุคทศวรรษที่ 90 และการป่วยด้วยโรคลิมป์ในระยะสุดท้ายที่ทําให้เธอต้องหยุดงานกับวง Le Tigre หลังจากวงยุบราวปี 2007 ในทศวรรษที่ผ่านมา วงดนตรีสามวงใหญ่ของเธอได้รับการรวมตัวใหม่ เมื่อเธอเสร็จสิ้นการโปรโมตหนังสือ “Rebel Girl” เธอจะนําวง Bikini Kill ไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศในฤดูร้อนนี้

หนังสือ “Rebel Girl” เล่าเรื่องราวอย่างโปร่งใสและสะท้อนตัวเอง เล่าเบื้องหลังเพลงดังของเธอ เช่นเพลง “Suck my left one” ที่มาจากคําพูดของพี่สาว และมองว่าประสบการณ์บางอย่างที่เคยถูกตีความว่าเป็นการปะทะกับวงการบันเทิงหลักอย่างไร เธอยังเขียนถึงเรื่องส่วนตัวบางเรื่องที่เธอไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เช่น การแต่งงานกับนักดนตรี Michael Marnier การที่เธอสูญเสียลูก และการรับเลี้ยงบุตรชาย

การเขียนหนังสือนั้นยากลําบากมากสําหรับเธอ แต่กลับกลายเป็นเหมือนเดินทางจากความเจ็บปวดไปสู่ความสุข “ฉันเขียนเรื่องราวที่เลวร้ายก่อน” ฮานนาบอก “ฉันต้องพยายามที่จะผสมผสานความสุขเข้าไปด้วย” เธอนั่งมองหน้ากระดาษว่างเปล่านานถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่ความทรงจําดีๆ จะไหลมา “และมันน่าอัศจรรย์เหลือเกิน เมื่อฉันฝังปมความทุกข์ลงไปแล้ว ฉันพบว่ามีสวนกล้วยอยู่ข้างใต้หลุมศพ”

บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้

หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน

SeaPRwire จัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์สดให้กับบริษัทและสถาบัน โดยมียอดการเข้าถึงสื่อกว่า 6,500 แห่ง 86,000 บรรณาธิการและนักข่าว และเดสก์ท็อปอาชีพ 3.5 ล้านเครื่องทั่ว 90 ประเทศ SeaPRwire รองรับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น อาหรับ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ 

TIME: คุณเป็นบุคคลสาธารณะมานานกว่า 30 ปีแล้ว คุณเริ่มคิดที่จะเขียนบันทึกชีวิตมานาน

Next Post

ServiceNow and Fujitsu announce strategic commitment to launch innovative cross-industry solutions

พุธ พ.ค. 8 , 2024
Kawasaki and Las Vegas, May 8, 2024 – (JCN Newswire via SeaPRwire.com) – Today, at ServiceNow’s annual customer and partner event, Knowledge 2024, ServiceNow (NYSE: NOW), the AI platform for business transformation, and Fujitsu Limited, an industry leader in IT services and digital trans […]